เมื่อกี้มีคนปรึกษาเรื่องการออกแบบเว็บไซต์นิดหน่อย เลยขอยกการสนทนามาให้อ่านกันตรงนี้นะครับ คิดว่าเป็นข้อคิดและอุทธาหรณ์ได้บ้างพอสมควร แต่ขอเอาชื่อผู้ถามผมออกนะครับ
ผู้ถาม: อาจารย์เว็บแบบไหนที่แตกต่างๆ
ผู้ถาม: ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
ผู้ถาม: พอดีเพื่อนเขียนเว็บให้บริษัทน่ะ
ผม: แล้วทำไมต้องแตกต่าง?
ผู้ถาม: แต่ไม่อยากจำเจอยู่กับรูปแบบเดิมๆๆ
ผม: มาอีกล่ะ พวกทำงานเอารูปแบบเป็นหลัก จะรูปแบบเก่า รูปแบบใหม่ ถ้าไม่ได้วิเคราะห์เรื่อง function และ usage เป็นหลัก มันจะทำได้ไง
ผู้ถาม: แต่คือว่าเขาแค่ตอ้งการดีไซต์และส่วนเรือ่งนั้นเขาคงทำเองอ่ะ
ผู้ถาม: ก้อแค่ออกแบบอะ
ผม: เว็บไซต์ไม่สามารถ design หน้าตาได้ หากไม่ design function ครับ
ผม: มันเหมือนกับคุณอยากจะออกแบบ “หน้าตา” ของรถยนต์ โดยไม่กำหนดว่า รถคันนี้ จะต้องวิ่งในที่แบบไหน บรรทุกอะไร กลุ่มเป้าหมายคืออะไร
ผม: คุณอาจจะคิดว่า หน้าตารถสปอร์ตมันเท่ห์ดี
ผม: แต่รถตู้ที่ออกแบบโดยใช้ concept รถสปอร์ต มีแต่ห่วยกับห่วย
ผม: ว่างั้นเถอะ
ผม: ไม่ได้กวนตีนหรือหลบเลี่ยงในการตอบ แต่ด้วยจรรยาบรรณ ไม่สามารถออกแบบเฉพาะหน้าตาได้ครับ หากคุณเคารพวิชาชีพตัวเอง ในฐานะนักออกแบบเว็บไซต์
ผู้ถาม: แต่มานก้อเปงส่วนหนึ่งหนิ
ผม: ลำดับก่อนหลังมีผลครับ
ผม: เอางี้ ผมให้คุณเลือกชุด จะพาออกงาน คุณจะเลือกชุดอะไร? ยังไง?
ผู้ถาม: ก้อต้องดูงานก่อนค่ะ
ผม: ใช่มั้ย
ผม: คุณต้องทราบว่า “งานอะไร แขกที่จะต้องไปพบ เป็นคนระดับไหน ต้องดู look เป็นยังไง ฯลฯ” ใช่มั้ย
ผม: ก็แบบเดียวกับการออกแบบเว็บไซต์น่ะแหละครับ
ผู้ถาม: แต่งานนี้เปงวัตถุดิบทางอุตสาหกรรม
ผู้ถาม: แต่ลูกค้าบอกว่าไม่อยากให้ธุรกิจมากเกิน
ผม: ถามคนอื่นเถอะครับ
ผม: คนที่ไม่ได้มีมาตรฐานในการทำงาน และมีจรรยาบรรณในการักษามาตรฐาน มีเยอะครับ
ผู้ถาม: ค่ะ
ผม: เหมือนสร้างตึกครับ ถ้าผมเป็นนักออกแบบ สถาปนิก ผมคงไม่สามารถบอกได้ว่า “ตึกนี้สวย ตึกนี้สวย ตึกนี้แปลก เอาแบบนี้ ผสมกับแบบนี้ ผสมกับแบบนี้ ฯลฯ” โดยไม่ดูว่า “แล้วมันเป็นตึกอะไรวะ ใครจะอยู่วะ เอาไปทำอะไรวะ คนเดินเข้าออกเยอะมั้ยวะ ฯลฯ”
ผม: สุดท้าย คุณอาจจะได้ตึกที่สวย แปลก เฉี่ยว แต่ใช้งานไม่ได้จริง
ผม: ตัวอย่างนี้มีให้เห็นตามเว็บไซต์ทั่วไปครับ
ผม: สวย แปลก ดูครั้งแรกแล้ว “ว้าว!” แต่ขอโทษนะครับ ไม่สามารถใช้งานได้จริงตามที่มันควรจะใช้งานได้
ผู้ถาม: ช่ายค่ะ
ผู้ถาม: พอเข้าใจและ
ผม: ขออนุญาตเอาการสนทนานี้ ไปลง blog และสอนหนังสือนะครับ เป็นตัวอย่างแนวคิดและทัศนคติหนึ่ง ที่พบเห็นได้ตามสังคมทั่วไป
ผู้ถาม: ขอบคุงค่ะ
ผู้ถาม: แป่ว
ผู้ถาม: ตามบาายคะ
ผู้ถาม: ก้อคิดไม่ออก
ผู้ถาม: เพราะยึดติดแต่สิ่งที่แตกต่างอ่ะคะ
ตามนั้นเลยครับ อีกอย่างนะครับ ช่วยๆ กันใช้ภาษาไทยให้มันถูกๆ หน่อยดีกว่านะครับ คือ บางครั้งเราพิมพ์ผิดโดยไม่ตั้งใจนี่คงไม่เป็นไร แต่ถ้าใช้แบบ “ก้อ (ก็)” หรือ “เปง (เป็น)” หรือ “มาน (มัน)” จนกลายเป็นเรื่องปกติ ผมว่ามันก็เกินไปครับ
ลองนึกถึงตัวเองว่าจะออกแบบ theme ได้ยังไงในเมื่อรู้แค่ว่ามันคือเว็บไซต์บริษัท มันยากมากที่จะทำไปก่อนโดยไม่รู้ว่าพื้นที่ตรงไหนจะมีอะไรอยู่ข้างใน
และจากสองประโยคสุดท้ายไม่แปลกใจเลยที่คิดไม่ออก… ก็เพราะ”ยึดติด” นั่นแหละ ก็เลยคิดไม่ออก
ส่วนเรื่องภาษา มันน่าเศร้าจริง ๆ
Form follows function ยังใช้ได้เสมอ
คนถามหวังว่า จะได้รับ ทฤษฏี จากอาจารย์รึเปล่าครับ
เช่น วางตำแหน่ง เมนู ตรงนี้ จะได้ลากเม้าส์ แบบนี้ เห็นง่าย กว่าแบบนั้น…เหมือนที่ อาจารย์ สอนใน UI ไงครับ (แค่เดา)
แต่อ่านแล้ว ดราม่า จริงๆ ตรงท่อนเลือกชุดไปงาน… (ฮา)
เค้าอยากได้ตัวอย่าง “เว็บไซต์ที่แตกต่าง” หรือ “การทำเว็บไซต์ให้แตกต่าง” น่ะครับ ซึ่งผมเห็นว่ามัน pointless ถ้ามุ่งแต่ความแตกต่างจนไม่ได้วิเคราะห์เรื่องแก่นของการใช้งาน
เห็นด้วยกับเรื่องลำดับก่อนหลังมีผลครับ
เหมือนกับตกแต่งร้านค้าก่อน โดยที่ไม่รู้ว่าร้านนั้นจะขายอะไร มีเฟอร์นิเจอร์อะไรบ้าง
Hi, dave. How are you doing?
I’ll go bangkok this month with machitori.
i wanna fever!fever!
おとい
やぁ。
連絡とれるメールアドレスがあれば、教えて。
no.otoi@gmail.com
※このコメントは、applyしないで結構です。
Hello, David!
おといから話聞いたよ~
likewaterforsheep@gmail.com