ฟังข่าวเมื่อวันก่อนแล้วสะดุ้งโหยง ว่าจะมีการเอาคะแนนความดีมาใช้ในการเข้ามหาวิทยาลัย โดยอาจจะเริ่มใช้เร็วถึงปีหน้าเลยทีเดียว ลองอ่านเพิ่มเติมจาก
MCOT News – นำร่องใช้คะแนนความดีเข้ามหาวิทยาลัยปีหน้า
อ่านแล้วก็ยังเกิดข้อสงสัยหลายอย่างด้วยกัน กลัวว่ามันจะเหมือนกับประเด็นการประกันคุณภาพของสถาบันอุดมศึกษา หรือว่าการใช้ GPA ในการเข้ามหาวิทยาลัย ที่สุดท้ายก็มีปัญหาในเรื่องการควบคุมคุณภาพ
ผมไม่ได้ต่อต้านแนวคิด (concept) แต่ว่าผมกลัวปัญหาเรื่อง implementation ของ concept มากกว่า เพราะว่าเราคงจะเห็นและรู้กันจนชินแล้ว
ความดีจะวัดกันออกมาเป็นคะแนนอย่างยุติธรรมได้ยังไง? จะมีการแจกคะแนนแบบเฝือหรือไม่? จุดยืนของโรงเรียนหลายโรงเรียนในประเด็นนี้คืออะไร? จริงๆ ก็ยังมีอีกเยอะ
ในบทความ (ตัวข่าว) มีการพูดถึงกรณีศึกษาของจังหวัดนครปฐม โรงเรียนในท้องถิ่นกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทำให้เข้าใจเพิ่มขึ้นหน่อยนึง ว่ามันเป็นเรื่องของการบริการสังคมและการบำเพ็ญประโยชน์ ตลอดจนการทำกิจกรรมของนักเรียน ซึ่งจะกลายเป็นคะแนนความดี และมีผลต่อการนำมาเข้ามหาวิทยาลัย
ก็ชัดเจนขึ้น เหลือแต่เรื่องมาตรฐาน ซึ่งคงต้องใช้เวลาหลายปีมากๆ อยู่ดี และก็น่ากลัวเรื่องการปล่อยคะแนน หรือว่าการยัดเยียดและอ้างสิ่งที่ไม่เป็นจริงหรือไม่มี ให้มันมีอยู่ดี……
ปัญหาการศึกษา ยิ่งว่ายิ่งลึกครับ ….. ผมคงไม่เขียน blog เรื่องนี้บ่อยนัก เพราะว่าเขียนมาบ่อยแล้ว เอาไว้มีประเด็นจริงๆ จะเขียนให้อ่านเต็มที่แน่นอน
โรงเรียนดังๆ ก็จะมีคนทำดีเยอะ ทำบ่อยด้วย
ใช่ไง เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับหลักการหรือ concept เรื่องนั้นเห็นด้วย และดี แต่เรื่อง implementation นี่อีกเรื่อง
บ้านเราเป็นแบบนี้บ่อยไป นโยบายดูดีบนกระดาษหรือโต๊ะประชุม แม้แต่แนวทางวิถีปฏิบัติ ที่วางไว้บนโต๊ะประชุม หรือระดับผู้บริหาร (วางนโยบาย) แต่ว่าพอไปถึงขั้นตอน implementation จริง โดยเฉพาะในระดับที่จะต้องปฏิบัติจริง นี่เหลวเยอะ เพราะว่าแนวทางมันลอยไป ไม่มี execution plan ที่เป็นรูปธรรมมากพอ ก่อให้เกิดช่องว่างในการปฏิบัติจริงได้เยอะ ฯลฯ
concept นี่ผมเห็นด้วย แต่ว่าเป็นห่วงเรื่อง implementation อย่างที่ว่า
ผมคิดว่าความดีมันวัดกันได้ด้วย ? …มันค่อนข้างจะวัดยากเหมือนกันนะครับ
ผมกลัวว่าจะคล้ายๆกับกรณีที่ว่าโรงเรียนต่างจังหวัดให้คะแนนง่าย ปล่อยคะแนนบ้าง แล้วมาตรฐานล่ะอยู่ที่ไหน ? …อีกอย่างผมกลัวว่าเด็กจะทำความดีเพื่อหวังผลตอบแทนกันมากขึ้นหรือเปล่า ? หรือผมคิดมากไปก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ
concept เดิมๆ > เปิดโอกาสทางการศึกษา
ผมอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมนักการศึกษาผู้มีเกียรติทั้งหลายคิดกันได้เพียงแค่นี้
ของที่ควรวัดไม่หัดวัด ของที่ควรให้ท่อง(สูตรคูณ)ก็ไม่ให้ท่อง
จนในที่สุดเด็กๆปี 1-2 ในปัจจุบันนี่บวกลบคูณหารกันไม่ถูกไปหมดแล้วครับ
หรือว่าหากวัดความเป็นเลิศทางวิชาการอย่างเดียว คงจะรู้แน่ๆว่าเด็กส่วนใหญ่ตกเกณฑ์กันค่อนประเทศแล้ว เลยต้องหาเกณฑ์ใหม่ๆมาหลอกตัวเองเล่นๆไปวันๆว่าเด็กเราดีมีคุณภาพ
ขออภัยครับหากเขียนแรงไปหน่อย
concept เดิมๆ > เปิดโอกาสทางการศึกษา
ผมอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมนักการศึกษาผู้มีเกียรติทั้งหลายคิดกันได้เพียงแค่นี้
ของที่ควรวัดไม่หัดวัด ของที่ควรให้ท่อง(สูตรคูณ)ก็ไม่ให้ท่อง
จนในที่สุดเด็กๆปี 1-2 ในปัจจุบันนี่บวกลบคูณหารกันไม่ถูกไปหมดแล้วครับ
หรือว่าหากวัดความเป็นเลิศทางวิชาการอย่างเดียว คงจะรู้แน่ๆว่าเด็กส่วนใหญ่ตกเกณฑ์กันค่อนประเทศแล้ว เลยต้องหาเกณฑ์ใหม่ๆมาหลอกตัวเองเล่นๆไปวันๆว่าเด็กเราดีมีคุณภาพ
รับความจริงกันก่อนดีกว่า
ขออภัยครับหากเขียนแรงไปหน่อย
แหม เขียนแรง แต่ตรงไปตรงมา และจริง ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่พี่
ผมเห็นด้วยนะ ว่าของที่ควรจะวัดเป็นหลักเป็นฐานให้มันดีกว่านี้ ก็ไม่ทำให้มันดีซะที ไปๆ มาๆ ความรู้ก็ไม่มี (แต่ว่ามี GPA สูงๆ สามกว่าๆ มาหลอกตัวเองไปวันๆ ว่ารู้ไปเรื่อยๆ) เดี๋ยวความดีก็ไม่เหลืออีก (แต่ว่ามีคะแนนความดีเต็มแม็กส์) แบบนี้น่ากลัวมั้ยเนี่ย
ไว้วันหลังผมไปเยี่ยมที่ ม. เราคงได้แลกเปลี่ยนเรื่องความไม่รู้แบบไม่น่าเชื่อของนักศึกษา
เร็วๆ นี้ใน seminar ของ lab ผมเอง ผมยังต้องสอนการตีความ truth table ใหม่เลย … ขนาดพวกนี้นี่ดีหน่อยแล้วนะ
ผมไม่เห็นด้วยนะที่จะเอาความดีมาโยงกับการศึกษา เพราะผมไม่เชื่อว่ามันจะมีวิธีการวัดความดีกันได้จริง
ผมกลัวว่าการศึกษาของเราจะแย่ลงไปเรื่อยๆ เพราะระบบเราไม่เคยเลือกคนที่ “มีความสามารถ” จริงๆมาเรียนได้สักที สุดท้ายเราก็ได้แต่คนทีตระกูลดี คนที่่มีโอกาส และคนที่ด้อยโอกาส มาโดยตลอด