Review: X-Men Triology

ก่อนที่จะเขียนรีวิว X-Men Origins: Wolverine ขอเอารีวิวของไตรภาคแรกของ X-Men มาโพสท์ใหม่นะครับ ซึ่งจริงๆ เป็นรีวิวที่เขียนไว้นานแล้ว และโพสท์ไว้นานแล้ว ใน Blog ในเว็บไซต์ที่ภาควิชา ซึ่งไม่ได้อัพเดทมานานมากแล้ว (และปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นเว็บที่ตายไปแล้วด้วยซ้ำไป)

รีวิวนี้ถูกโพสท์ไว้ที่ http://www.cp.su.ac.th/~rawitat/weblog/files/x_men.html เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2006 ซึ่งนานโขแล้ว … เอาเป็นว่าผมขอเอามาโพสท์ไว้อีกครั้งที่นี่ โดยไม่แก้ไขเนื้อความใดๆ ทั้งสิ้น ก็แล้วกันนะครับ

***อาจจะ spoil นะ ใจไม่ด้านพออย่าอ่านต่อ อย่าหาว่าไม่เตือนด้วย***

ไม่ได้เขียน review หรือว่าวิเคราะห์วิจารณ์หนังนานแล้ว แต่ว่าเรื่องนี้อดไม่ได้จริงๆ เพราะว่ามันตีความสวยๆ ได้เยอะเลย ตั้งแต่เริ่มภาคแรกน่ะแหละ อีกอย่าง บอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้สนใจความ “เหมือน” ในเนื้อเรื่องระหว่างหนังกับการ์ตูน หรือว่าการเพิ่ม/ลด/เปลี่ยนบทบาทตัวละครบางตัวนะ

ผมอยากจะมองในแง่การตีความเชิงปรัชญากับชีวิตมากกว่า

ผมอยากจะมองแค่ว่า ถ้าบรรดา X-Men หรือว่าพวกมนุษย์กลายพันธุ์ เป็นคนธรรมดาที่แตกต่างไปจากคนทั่วๆ ไป คนที่ไม่ใช่ mainstream คนที่คิดแตกต่าง ทำแตกต่าง มีแนวคิดและความสามารถที่แตกต่างออกไปจากคนทั่วไปล่ะ …. สิ่งที่คนพวกนี้พบจากสังคมก็มักจะเป็นสิ่งเดียวกันน่ะแหละ คือ ความกลัว ที่มักจะแฝงอยู่ในรูปของความโน่นความนี่

หลายคนอาจจะมองคนที่แตกต่างเหล่านี้ ว่าเป็นผู้มีปัญหาทางจิต มีปัญหาในการเข้าสังคม มีปัญหาเพราะว่าไม่เหมือนคนหมู่มาก ฯลฯ และพยายามแก้ ด้วยการบังคับ (โดยการใช้กฏของสังคม) ให้พวกที่แตกต่างเหล่านี้เป็นไปตามคนหมู่มาก อ้างโน่นอ้างนี่ และสุดท้ายก็อ้างประชาธิปไตย (เหมือนในหนัง X-3 น่ะแหละ ที่มีการเอาตรงนี้มาแดกดันเล่นด้วย) …. แต่ว่าคนทั่วไปมันเข้าใจประชาธิปไตยซะที่ไหนเล่า ว่ามันต่างจากพวกมากลากไปตรงไหน

ผมมองว่าบรรดามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหลายนี่ เป็น exaggerated version ของคนธรรมดาๆ ที่มีความสามารถพิเศษอะไรบางอย่างน่ะแหละ ลองแทนความสามารถทางร่างกายด้วยคำว่า จิตใจ สิ เช่น คนที่มีใจแบบความสามารถของ Wolverine ก็เป็นพวกใจแข็งเป็นเหล็ก กล้าหักกล้าทะลวงกล้าแหก รักษาอาการบาดเจ็บทางจิตใจ (อาการท้อแท้ ฯลฯ) ได้เร็ว .. คนที่มีใจแบบ Iceman ก็เป็นพวกที่ทำให้ทุกคนใจเย็นลงได้ หรือว่าเย็นใจได้เมื่ออยู่ใกล้ๆ ผมว่าจริงๆ ลองแปลๆ ตีความเล่นๆ แบบนี้ก็เข้าท่าดีเหมือนกัน

ที่ผมชอบที่สุด (แต่ว่าหลายคนอาจจะไม่ชอบไปด้วย) ในเรื่อง X-3 ก็คือ Angel ที่หลายคนบอกว่า ไม่เห็นมีบทอะไรเลย ออกมาเท่ห์แค่ไม่กี่ฉาก พลังพิเศษอะไรก็ไม่มี นอกจากบินได้

แต่ว่า Angel เป็นสัญลักษณ์ของคำว่า อิสรภาพ ซึ่งอาจหมายถึงคนที่มีใจรักอิสะเสรีด้วย คนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ไม่มีอะไรพิเศษนี่แหละ คนพวกนี้เป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในสังคมที่พวกเราๆ สร้างมันขึ้นมา ผมเชื่อว่า คนเราทุกคน เกิดมาพร้อมกับสิ่งๆ หนึ่งที่ถูกเด็ดทิ้งไปโดยระบบโลกที่พวกเราสร้างมันขึ้นมาเอง … นั่นก็คือ ปีกแห่งเสรีภาพ (Wings of Freedom)

ใน X-3 ภาพของ Angel จะเป็นการโบยบินบนท้องฟ้า ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมา เราใช้แทนสัญลักษณ์ของการมีอิสรภาพ และ Angel ก็คือคนที่จะถูก รักษา เป็นคนแรกของเรื่อง นั่นก็คือ การเด็ดปีก หรือทำลายเสรีภาพทิ้งนั่นเอง

คนที่มีลักษณะพิเศษหลายอย่าง ที่ถูกระบบของโลกเรา อ้างความเป็นคนหมู่มาก อ้างความเหมือนความเท่าเทียม ไม่ให้ความสำคัญหรือแม้แต่ยอมรับความต่าง … ทำลายลงไป … คนที่บทจะดีก็ดีใจหาย บทจะร้ายก็ร้ายน่ากลัว มีพลังมหาศาลที่สามารถเอาไปใช้สร้างสรรค์ทุกอย่างได้ หรือว่าจะทำลายอะไรก็ได้ อย่าง Phoenix … ก็มีหลายคนในความเป็นจริง แต่ว่าน่าเสียดายที่คนพวกนี้หลายคนต้องจบชีวิตตัวเอง หรือไม่ก็ดำเนินชีวิตไปในทางเลวร้ายทำลายล้าง เพราะว่าเมื่อทำดี หรือพยายามทำดี แล้วต้องอยู่ภายใต้กรอบมากไป เหมือนกับถูกกักขัง และไม่ได้รับการยอมรับในความสามารถตัวเองอย่างแท้จริง .. หรือว่าคนที่เป็นอย่างมนุษย์กลายคนพันธุ์คนอื่นๆ

ผมไม่ค่อยเชื่อหรอก ที่มีคนบอกว่า ความต้องการพื้นฐานทางจิตใจของคนเรา คือ ความรัก ผมว่ามันคือ การยอมรับ ในทางที่ตัวเองเป็น และการยอมรับและยินดี ในสิ่งที่ตัวเองทำ จากความปรารถนาและเจตนาที่ดีอย่างจริงใจ ต่างหากล่ะ

อยากจะ quote อะไรบางอย่างจากหนังแฮะ แต่ว่าไม่รู้จะ quote อะไรดี ก็เอานี่ละกัน

“Do we look like we need your help (cure)?”

และพบกันในรีวิว X-Men Origins: Wolverine เร็วๆ นี้ครับ …. (ไม่ได้เขียนรีวิวหนังมานานมาก สนิมเกาะหมดแล้ว)