[อัพเดท: 14 กันยายน 2013] เพิ่มรูปถ่ายเปรียบเทียบกับ D800+24-120 f/4 N
สิ่งที่ทำให้ผมอึดอัดมาก เวลาจะต้องใช้ Nikon 1 เป็นกล้องหลักหรือกล้องตัวเดียวเวลาไปเที่ยว ก็คือ “การที่มันไม่มี Ultra-Wide” ทั้งๆ ที่ด้วยความที่เซ็นเซอร์มันเล็ก มันน่าจะ “เกิดมาเพื่อสิ่งนี้” .. คิดดูสิ Depth-of-Field (DoF) มหาศาลโดยธรรมชาติซะขนาดนั้น … และแล้วด้วยเลนส์นี้ ความต้องการของผมก็เป็นจริง เพราะมันคือ Ultra-Wide Zoom ที่ให้ Field-of-View (FoV) เทียบเท่า 18-35mm
หน้าตาของ 6.7-13mm f/3.5-5.6 .. Product Shot แบบบ้านๆ
Disclaimer เกี่ยวกับรูปถ่าย: ทุกรูปที่ลงในบทความนี้ ไม่มีรูปไหนที่ “จบหลังกล้อง” ทุกรูปถ่ายเป็น JPEG Normal จากกล้อง ไม่ก็ RAW (ภาพที่แสงยากๆ มีความต่างแสงเยอะๆ ถ้าใช้ JPEG มีโอกาสข้อมูลหายสูง ก็จะถ่าย RAW ไว้) และทำต่อนิดหน่อยเท่าที่ไฟล์มันจะทำต่อได้ใน Lightroom เพื่อให้เห็นผลจากการใช้งานจริงในแบบ Real-World Usage ไม่ใช่เน้นแบบ Lab-Test รูปทั้งหมดสามารถดูรูปใหญ่ได้ที่ Flickr ซึ่งผมลงไว้ที่ Photoset นี้ [Review] Nikon 1 – 6.7-13mm f/3.5-5.6 VR ซึ่งตอนนี้มีรูปเท่ากับที่ลงในบทความนี้ แต่อาจจะเพิ่มในอนาคต (ซึ่งจะลงใน Flickr แต่ไม่เอามาลงเพิ่มในบทความนี้แล้ว)
เลนส์ตัวนี้นับเป็นเลนส์ที่ผมตั้งตารอมากที่สุดในบรรดา Line up ที่ประกาศตัวออกมาล่วงหน้าของ Nikon 1 ทั้งหมด ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบถ่ายเลนส์มุมกว้างมาก (ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง รวมถึงประเด็นปรัชญาแบบที่เคยเขียนไว้ในบทความ “มุมกว้าง” ด้วย) ผมก็เลยสั่งร้านประจำไปว่ายังไงๆ ก็ต้องสั่งให้ผมตัวนึงนะ
ท้องฟ้า หน้าผา ทะเล
สถานที่: Centara Grand Beach Resort & Villas (กระบี่)
แต่เมื่อเลนส์ตัวนี้ออกมาจริงๆ ผมกลับแค่ลองจับๆ มันเล่นที่ร้านประจำ แล้วก็วางไป ไม่ถอยมันมาทันที ไม่ลองแม้แต่ถ่ายกับกล้องจริงเสียด้วยซ้ำ เพราะอะไรเหรอ … คำตอบง่ายๆ ก็คือ “ราคา” ครับ ในบรรดาเลนส์ของ Nikon 1 ทั้งหมดที่ออกมาถึงตอนนั้น ตัวนี้จัดว่าแพงพอตัว แล้วอีกอย่างหนึ่ง ตอนนั้นผมยังไม่มีเรื่องจะต้องใช้เลนส์ตัวนี้ และกำลังจะลงทุนกับเลนส์ของ Fujifilm X-Mount เพิ่มด้วย ก็เลยรอไปก่อน
หลายเดือนผ่านไป ผมลืมมันไปแล้วล่ะ แล้วก็กะว่าจะไม่เล่นแล้ว Nikon 1 ก็ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ .. แต่แล้วก็งานเข้า เพราะดันมีทริปด่วน ซึ่งสถานที่ที่จะไป เป็นที่ๆ เหมาะมากกับการใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายวิว … ไหนๆ วันหนึ่งก็คงต้องจัดมันอยู่แล้ว ก็เลยจัดมันไปซะเลย เพื่อที่จะได้เอาไปทดสอบกับการใช้งานจริง … ถ้าพลาดทริปนั้นไป ก็ไม่รู้จะได้เที่ยวอีกทีเมื่อไหร่แล้ว
ท้องฟ้า ภูเขา ทะเล
สถานที่: Centara Grand Beach Resort & Villas (กระบี่)
เมื่อผมได้เห็นและจับเลนส์จริงๆ อีกครั้ง (หลังจากที่จับแล้ววางในครั้งแรก) ก็พบกับความไม่คงเส้นคงวาของ Texture และ Finish ของเลนส์ในระบบ Nikon 1 อีกครั้ง ตัวนี้มาแปลกกว่าเพื่อน เพราะเป็นผิวมัน และมี Texture ตรงวงแหวนซูมเป็นพลาสติก แตกต่างจาก 10-30 และ 30-110 ที่เป็นยาง บอกตามตรงว่า “รู้สึกแปลกๆ” อีกแล้ว … แต่รู้สึกว่ามันถูกสร้างมาดีกว่า 10-30 เยอะเหมือนกัน
ตัวเลนส์มีขนาดค่อนข้างเล็กกระทัดรัด เวลาจะใช้เลนส์จะต้องหมุนเลนส์ออกจากตำแหน่ง Lock เสียก่อน ซึ่งถ้ากล้องปิดอยู่ ก็จะเปิดกล้องได้เช่นเดียวกับ 10-30 และ 30-110 ดังนั้นเวลาใช้จริงจะยาวกว่าเวลา Lock เก็บเล็กน้อย
ท่าเรือ
สถานที่: กระบี่
เรื่องสำคัญที่หลายคนอาจจะมองข้าม ก็คือเรื่อง Lens Hood ซึ่งไม่รู้ว่า Nikon เป็นอะไรถึงไม่ค่อยชอบแถมให้กับเลนส์ของ Nikon 1 เลย 10-30 ก็ไม่มี Hood มาให้ 18.5/1.8 ก็ไม่มี ที่มีมาให้เลยไม่ต้องซื้อเพิ่มมีแค่ 30-110 จะสั่งจะซื้อเพิ่มก็หาของยากเย็น (ไม่เหมือนที่ญี่ปุ่น ที่นั่นเดินเข้าร้านไหนก็มีพวก Accessories เสริมพวกนี้) … แล้วผมเป็นพวกชอบใส่ Hood ให้กับเลนส์ทุกตัวซะด้วยสิ
แต่สำหรับ 6.7-13mm ตัวนี้มีข่าวดี ก็คือ “มีมาให้ในกล่องเลย” แถมหน้าตา Hood ดูดีใช้ได้ซะด้วย แต่ก็เหมือนกับ Hood ของ 30-110 นะ ที่พอกลับด้านสวมเลนส์เพื่อเก็บแล้ว จะเปิดเลนส์หรือใช้เลนส์ลำบาก จะต้องใส่ถูกด้านอย่างเดียว ก็ไม่เป็นไร ปกติก็ไม่ค่อยได้ Reverse มันอยู่แล้วยกเว้นเวลาเก็บเลนส์
ทดสอบความกว้าง ด้วยวิธีง่ายๆ
ราคาอยู่ที่หมื่นกลางๆ ก็จัดไปซะ แล้วก็เอามาลองใช้จริงดีกว่า เพราะลองที่ร้านในห้าง ยังไงๆ ก็ไม่เห็นการใช้งานจริงเท่าไหร่
พอได้เลนส์แล้วก็เอามาถ่ายเล่น วันแรกก็แน่นอน ลองในออฟฟิศน่ะแหละง่ายที่สุด เพราะว่าเป็นที่ค่อนข้างจำกัด อย่างที่คุณ RBJ แห่ง PixPro’s เขียนไว้เป็น signature น่ะแหละว่า
“ที่กว้างๆใช้เลนส์แคบๆ ที่แคบๆ ใช้เลนส์กว้างๆ”
– RBJ
ปกติเวลาที่ถ่ายรูปเล่นในออฟฟิศบอกได้เลยว่าขนาด 28mm นี่ “อึดอัด” แต่สำหรับตัวนี้ก็สมกับที่มี FoV เทียบเท่าเลนส์ 18mm ใช้ในที่แคบได้สบายๆ แม้แต่คนที่คุ้นเคยกับเลนส์ที่กว้างกว่านั้นอย่าง 14-24 บน Full-Frame ก็ไม่รู้สึกว่าอึดอัดเท่าไหร่
Internal Pitch
สถานที่: ออฟฟิศ Code App Co., LTD. (รกดีมะ)
ตัวเลนส์มีโครงสร้างค่อนข้างซับซ้อนครับ คือมีชิ้นเลนส์ 11 ชิ้น ใน 7 กลุ่ม ซึ่งในนี้มีชิ้นเลนส์ Aspherical 3 ชิ้น และมี ED (Extra Low Dispersion) อีก 3 ชิ้น ซึ่งชิ้นเลนส์พวกนี้จะช่วยให้ได้คุณภาพของภาพที่สูงขึ้น (แต่ไม่ได้แปลว่าเลนส์ที่ไม่มีพวกนี้จะแย่หมดนะ ขึ้นกับว่ามันเป็นเลนส์อะไร แล้วการออกแบบมันเป็นยังไง โครงสร้างมันเป็นยังไง ลักษณะแสงที่มันควบคุมเป็นยังไง ฯลฯ เลยต้องใส่ชิ้นเลนส์พวกนี้ไปเพื่อควบคุมหรือแก้ไขปัญหา) รวมถึงมีใบรูรับแสงแบบ 7 กลีบโค้งเพื่อ Bokeh ที่สวยงาม (แล้วมันจะมีให้เห็นมั้ยล่ะ?!?!) มีน้ำหนัก 125 กรัม ก็จัดกว่าน้ำหนักกำลังเหมาะมือดี ใส่กับ Nikon V1
แหงนมองหน้าผา
สถานที่: หาดพระนาง กระบี่
ที่น่าสนใจก็คือ “คุณภาพของภาพ” มากกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง เท่าที่เห็นจากภาพแรกๆ แม้แต่เปิดรูรับแสงกว้างที่สุด ก็ยังคมหมดจรดขอบถึงขอบ การใช้งานจริงระดับที่ไม่ demanding อะไรมากมายนักเรียกว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรทั้งสิ้น และที่สำคัญเนื่องจากเซ็นเซอร์ CX format มันเล็ก ทำให้มี DoF มหาศาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้แต่เปิดรูรับแสงกว้างที่สุดก็ยังใช้ถ่ายชัดหน้าถึงหลังได้สบายๆ ซึ่งเหมาะมากกับการถ่ายในที่แสงค่อนข้างจะน้อย
ระเบียงหน้าห้องพัก
สถานที่: Centara Grand Beach Resort & Villas (กระบี่)
ระยะโฟกัสใกล้สุดของเลนส์อยู่ที่ 25cm ซึ่งน้อยมากพอที่จะถ่ายรูปใกล้ๆ ให้วัตถุเด่น โดยทิ้งฉากหลังเบลอได้บ้าง ถ้าเปิดรูรับแสงกว้างพอ (อะฮ่า! Bokeh! เบลอพอๆ กับใส่ Contact เลนส์ผิดเบอร์ไปนิดหน่อย) แต่ไม่เพียงพอสำหรับการถ่ายใกล้แบบมาโครหรือเน้นวัตถุอะไรขนาดนั้น แต่จะเหมาะกับ “เน้นวัตถุในสภาพแวดล้อมที่มันอยู่” มากกว่า
Real Desktop Icon
สถานที่: บนโต๊ะทำงาน ณ ออฟฟิศ Code App
ซึ่งแน่นอนว่าเวลาเอาไปใช้ถ่ายรูปจริงๆ ก็มักจะเหมาะกับการเน้นวัตถุในสภาพแวดล้อมของมันน่ะแหละ อย่างรูปต่อไปนี้แทบจะยืนติดเรือ ก็ยังเก็บได้ทั้งลำสบายๆ ไม่อึดอัดมากนัก ไม่คิดถึงระยะ 14mm ของเลนส์ 14-24 ที่ใช้ประจำสักเท่าไหร่ ไม่สิ ไม่รู้สึกว่ามันแคบไปมากมายแต่อย่างใดในการใช้งานจริงกับที่โล่งๆ แบบนี้
เรือนำเที่ยวแบบบ้านๆ
สถานที่: เกาะแห่งถึงแถวกระบี่
เรื่องสีสัน เรื่อง Contrast เรื่องการไล่สีต่างๆ ถูกถ่ายทอดออกมาได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าตั้งกล้องไว้เป็น Vivid ด้วยแล้วล่ะก็ จะได้สีที่จัดสะใจคนชอบสีสันกันเลยทีเดียว เรื่องนี้ผมรู้สึกว่ากับเลนส์ Nikon 1 ที่ออกมาเป็นตัวโดดๆ มันไปเป็นข้อจำกัดที่เซ็นเซอร์มากกว่าที่เลนส์ซะแล้วด้วยซ้ำ ไม่เหมือนกับเลนส์คิท ที่ทำเรื่องนี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่
เจอภาพที่ได้จากเลนส์ตัวนี้เข้าไป … เฮ้ย นี่มันเหมือนที่ได้จากกล้องใหญ่เลยนี่หว่า!
ป้ายบอกราคาเครื่องดื่ม
สถานที่: เกาะแห่งหนึ่งแถวกระบี่
ข้อเสียที่เห็นได้ชัดของเลนส์ตัวนี้ ณ เวลาที่เขียนรีวิวนี้ก็คือ “มันยังใหม่ไป” ทำให้ยังไม่มี Lens Profile ใน Lightroom ซึ่งทำให้ LR จะยังไม่สามารถแก้ไขลักษณะการบิดเบี้ยวและขอบภาพมืดของเลนส์ตัวนี้อย่างอัตโนมัติได้เวลาที่ถ่ายเป็น RAW แต่ถ้าถ่าย JPEG ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะกล้องมันแก้ให้อยู่แล้ว (อย่าลืมอัพเดท firmware กล้องให้ทันสมัยอยู่เสมอกันด้วยนะ เพราะหลายครั้ง Lens Profile ใหม่ๆ มันก็จะมาพร้อมกับ firmware ใหม่ๆ ของกล้อง)
Waiting for the Airplane
สถานที่: สนามบินสุวรรณภูมิ
มีทางเลือกอยู่ 2-3 ทาง ก็คือ 1) ปล่อยมันไป 2) แก้เองแบบเถือกๆ นั่งจำค่ากันไป 3) ใช้ Profile ตัวอื่น เช่น 10-30 แก้ขัดไปก่อน แต่บอกตรงๆ นะ ว่าในการใช้งานจริงๆ กับการถ่ายรูปวิวส่วนมากที่ไม่ได้เอาไปถ่ายเส้นตรงอะไรมาก ดูไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ใช้ Profile ของ 10-30 ไปก่อนก็พอกล้อมแกล้มได้ ไว้ LR มันอัพเดทเมื่อไหร่ค่อยมาเลือก Profile ใหม่อีกทีก็ย่อมได้อยู่แล้ว
ส่วนคนที่ซีเรียสจริงๆ ก็คงจะต้องถ่ายเส้นตรงกับกำแพงเรียบๆ ที่ระยะต่างๆ แล้วมานั่งปรับแล้วจดค่าที่ปรับในระยะต่างๆ ไว้ครับ
ปากถ้ำพระนาง กระบี่
สถานที่: หาดถ้ำพระนาง กระบี่
รูปแบบหนึ่งที่ผมชอบใช้เลนส์มุมกว้างถ่าย ก็คือ “การถ่ายย้อนแสงอาทิตย์” ไม่สิ “การถ่ายโดยมีดวงอาทิตย์อยู่ในภาพ” ซึ่งสำหรับเลนส์ตัวนี้จัดว่าทำได้ดี แม้จะไม่มี Nano Coating แบบรุ่นพี่มันก็คือ 14-24 และ 16-35 ก็ตาม รูปต่อไปนี้ผมลองกรณี Extreme โดยส่องดวงอาทิตย์เต็มๆ ดวงเลย ก็พบว่าทั้ง Flare ทั้ง Ghost มีโผล่มาให้เห็นพอสมควรตามคาด แต่ไม่ได้รบกวนอะไรรูปมากมายนัก ส่วน Sun-star สวยดี ที่ f/13 ซึ่งแน่นอนว่าเปิดรูรับแสงแคบขนาดนั้นความคมของภาพจะลดน้อยไปแล้ว เพราะเจอ Diffraction เล่นงานเข้าไป
ทดสอบ Sun-Star
สถานที่: ท่าเทียบเรือของ Centara Grand Beach Resort & Villas (กระบี่)
อ่ะ แถมหน่อย รูปจุดเดียวกัน แต่ถ่ายด้วย D800 + 24-120 f/4 VR N จะเห็นว่าไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันขนาดนั้น (นอกจากองศารับภาพ เพราะว่าเทียบเท่า 18mm มันกว้างกว่า 24mm มากโขอยู่) กับการใช้งานทั่วไป อัดรูปเล็ก ดูบนเว็บ ดูบนจอคอมพิวเตอร์ … แล้วเล่นถ่ายย้อนดวงอาทิตย์แบบนี้ ต่อให้เลนส์เคลือบ Nano Crystal Coat มาก็เถอะ ยังไงๆ ก็เก็บพวก Ghost & Flare ไม่หมดหรอก แต่มันก็ลดลงจากเลนส์ที่ไม่มีน่ะแหละ … คิดซะว่าลักษณะของ Ghost & Flare มันเป็นคาแรคเตอร์ของเลนส์ละกัน เอาไปใช้ทำอะไรสวยๆ ได้เหมือนกันนะ
เทียบกับพี่ใหญ่ D800 + 24-120 f/4 ซะหน่อย
อ่อ … ลืมไป ถึงราคาเลนส์ตัวนี้จะสูงหน่อย เมื่อเทียบกับเลนส์ Nikon 1 ตัวอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ .. แต่ว่าราคา Nikon V1 คิท + 6.7-13mm ทั้งชุดนี่ยังถูกกว่าราคาเลนส์ 24-120 f/4 N ตัวเดียวเลยนะ จะบอกให้ ฮ่าๆ
ลองถ่าย Moon-star และ Stars จริงๆ ดูบ้าง ดูซิว่าเลนส์ตัวนี้จะเก็บรายละเอียดในสถานการณ์แบบนี้ได้ขนาดไหน พบว่า ค่อนข้างจะ “Impressive” มากมายทีเดียว
The Moon above the Cliff
สถานที่: Centara Grand Beach Resort & Villas (กระบี่)
ระบบกันสั่น ให้มา 3-stop (ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ) ซึ่งเรียกว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปนะ หลายคนอาจจะคิดว่ากันสั่นไม่จำเป็นสำหรับเลนส์มุมกว้าง จริงอยู่ครับที่มันสำคัญกับเลนส์เทเลโฟโต้ซะมากกว่า แต่เลนส์มุมกว้างก็มีเหมือนกันที่เราอยากจะถ่ายในที่แสงน้อย ดัน ISO ขึ้นไม่ไหวอีกแล้ว และความเร็วชัตเตอร์ที่ทำได้ก็ยังช้าอยู่ หาที่วางกล้องก็ไม่มี กรณีแบบนี้แหละที่กันสั่นช่วยได้เยอะ อย่างรูปต่อไปนี้นี่แสงเหลือน้อยมากๆ และดัน ISO ขึ้นสูงกว่านั้นไม่ได้แล้ว
หลังแสงหมด
สถานที่: Centara Grand Beach Resort & Villas (กระบี่)
แต่กันสั่น มันไม่ช่วยหยุดการเคลื่อนไหวของสิ่งที่ขยับได้นะ อันนั้นต้องใช้ความไวชัตเตอร์ที่เร็วพออย่างเดียว ดังนั้นยังไงๆ มันก็แทนเลนส์ไวแสงไม่ได้อยู่ดี (ดูจากใบไม้และคลื่นในรูป ซึ่งเห็นชัดว่ามีการขยับ)
สรุปสั้นๆ ว่า:
นี่คือเลนส์ที่ดีที่สุด สำหรับ Nikon 1 และเป็นเลนส์ที่ “เปลี่ยน” Nikon 1 และราคาที่ดูอาจจะแพงเมื่อเทียบตัวเลนส์ Nikon 1 ตัวอื่นๆ ในตอนแรก บอกได้เลยว่า “โคตรคุ้มทุกสตางค์” ครับ
ผมคิดว่า Nikon 1 มันเกิดมาเพื่อใช้กับเลนส์มุมกว้างอยู่แล้ว ด้วย DoF มหาศาลที่มันมีโดยธรรมชาติของมัน การใช้เลนส์มุมกว้างที่ f/3.5 – f/5.6 ได้ แล้วยังชัดได้หน้าถึงหลัง โดยไม่ต้องเปิด f/8 – f/16 แบบ Full Frame เป็นอะไรที่หลายคนอยากได้มากมาย ลองคิดถึงความไวชัตเตอร์ที่จะได้ ลองคิดถึงภาพที่จะได้สิครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเลนส์ตัวนี้มันคมตั้งแต่เปิดรูรับแสงกว้างๆ ตั้งแต่ขอบถึงขอบแบบนี้ด้วย
No Message in a Bottle
บนเกาะแห่งหนึ่ง แถวกระบี่
ด้วยเลนส์ 18.5mm f/1.8 และ 6.7-13mm f/3.5-5.6 VR ผมถือว่าตอนนี้ Nikon 1 คือระบบที่ “เกือบสมบูรณ์” แล้ว ถ้าดูจากช่วงของเลนส์และลักษณะเฉพาะของเลนส์ที่มีให้ใช้ ยิ่ง 6.7-13mm ตัวนี้คุณภาพถือว่าดีแบบกระโดดออกจากเลนส์ซูมที่เป็นคิททั้ง 2 ตัวอย่างรู้สึกได้ทุกอย่างจริงๆ
ร้านอาหารริมเกาะ
สถานที่: หาดไร่เลย์
คุณภาพของภาพที่ได้ จากตอนแรกที่ผมรู้สึกว่ามัน “อารมณ์ Compact ที่ดีกว่า Compact นิดนึง” เปลี่ยนไปจริงๆ ครับ กลายเป็นว่านี่คือ “Serious Photographic Tool” มากขึ้นเยอะ รู้สึกสบายใจมากขึ้นหากว่าเวลาไปเที่ยวไหนจะเอาแค่กระเป๋าเล็กๆ มี Nikon V1 ติดไปตัวเดียว ติดเลนส์ 18.5mm f/1.8 ไว้หน้ากล้อง และเก็บ 6.7-13mm และ 30-110 ไว้ในกระเป๋าเผื่อใช้งาน (ทิ้ง 10-30 ไว้บ้าน)
The Sunset Solitude
สถานที่: ท่าเทียบเรือของ Centara Grand Beach Resort & Villas (กระบี่)
บทความที่เกี่ยวข้อง
- [12 ธันวาคม 2011] สองวันกับ Nikon V1
- [16 เมษายน 2012] Nikon V1 + FT-1: “นี่มันโคตร Telephoto!”
- [04 กันยายน 2013] รีวิว: Nikon 1 – 18.5mm f/1.8
ไม่มีรูปหมาที่บ้านไม่ได้เด็ดขาด ผิดธรรมเนียม
สถานที่: บ้าน
You must be logged in to post a comment.