Maksim Mrvica กำลังทำอัลบั้มใหม่!

วันนี้เพิ่งจะบ่นๆ ว่าเพลงพวก classical crossover (ชอบฟังมากเวลาขับรถ) นี่พักนี้เงียบเหลือเกิน … ศิลปินที่ชอบมากๆ อย่าง Maksim Mrvica (wikipedia) ที่ปกติจะออกปีละอัลบั้ม ตั้งแต่ The Piano Player ปี 2003 มาถึง Electrik ปี 2006 ก็ไม่ออกอัลบั้มใหม่มาพักนึงแล้ว นี่ก็ใกล้ปลายปีแล้วด้วย …..​ ว่ามี internet connection เมื่อไหร่จะ check​ ซะหน่อย … และแล้ว

ข่าวดี! จาก maksimmrvica.com สดๆ ร้อนๆ (ลงวันที่ 17 พย. นี้เอง) บอกว่า Maksim กำลังอัดอัลบั้มใหม่อยู่ โดยที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านไปแล้ว ที่ Olympic Studio, London และจากข่าวบอกว่าอัลบั้มนี้จะต่างจากอัลบั้มหลังๆ หน่อย ตรงที่จะไม่มีเครื่องดนตรีอื่นเลย นอกจากเปียโนเท่านั้น (ปกติจะเป็นเปียโน + วง orchestra) อืมมมม คงจะให้อีกอารมณ์ เพราะว่าพวก classical crossover แบบ soloist นี่ไม่ค่อยเห็นแฮะ

จริงๆ ก็ชอบแบบ instrument+orchestra นะ อาจจะยกเว้นอัลบั้มที่สองไว้หน่อยนึง (หน่อยนึงจริงๆ) เพราะว่าอัลบั้มนั้น Royal Philharmonic เล่นเด่นไปนิด กลบเสียงเปียโนซะหมด จนบางทีมีความรู้สึกว่าต้องพยายามกระแทกเปียโนให้มันแรงกว่าที่มันควรจะเป็น จะได้มีเสียงหลุดออกมาบ้าง … จริงๆ อัลบั้มที่สองก็ดี เพียงแต่ว่าเป็นอัลบั้มเดียวที่มี comment แบบ negative หน่อย……

รวมปัญหาเรื่อง lib ใน Leopard

ตอนนี้เริ่มเล่น Leopard ในฐานะของนักพัฒนาโปรแกรมและพวกชอบงัดแงะมากขึ้น และตอนนี้เท่าที่ลองเล่นก็เจอปัญหาโน่นนี่นิดหน่อย ซึ่งได้ post ไว้ใน ThaiMacDev เรื่อยๆ แต่ว่าขอรวบรวมไว้ตรงนี้อีกที่หนึ่งละกัน

ไว้เจอมากกว่านี้แล้วจะ post ไว้เรื่อยๆ ครับ

History of the Internet & the Web

เทอมนี้สอนวิชา Programming on the World Wide Web และคิดจะใช้วิธี collaborative knowledge development กับวิชานี้ (และอาจจะวิชาอื่นๆ ที่สอนในเทอมนี้ด้วย) ก็คือ ผมจะรวบรวมบทความหรือว่าเร่ืองน่าสนใจต่างๆ มาเป็น reading list และนักศึกษาจะต้องเข้าไปอ่าน​ (ไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมด) และต้องมีความคิดอะไรบางอย่างกับสิ่งที่ตัวเองอ่านไป ว่าให้ข้อคิดอะไรบ้าง ส่งให้เกิดผลอย่างไรบ้าง หรือว่าทำให้เข้าใจโลกที่เป็นอยู่อย่างไรบ้าง และนักศึกษาจะต้องเขียนเป็นบทความสั้นๆ แล้ว submit กลับเข้าไปในระบบ โดยที่ผมจะเป็น editor ให้ เพื่อคัดเลือกบทความที่ดี (interesting, insightful ตามภาษา slashdot) ให้อยู่ในระบบ และการนับคะแนนจะนับตาม contribution ในการร่วมกันสร้าง knowledge

สำหรับ reading list แรกของวิขานี้ คือเรื่องเชิงประวัติศาสตร์ นั่นคือ history of internet & the web ซึ่งผมเห็นว่าจริงๆ ก็น่าสนใจดี ก็เลยเอามา post ไว้ที่นี่อีกที่หนึ่ง

517312 Programming on the World Wide Web: Reading: History of Internet & the Web

ซึ่งก็คงต้องขออภัยอย่างสูงด้วยอีกเรื่องหนึ่งคือ ใน website นั้น ไม่ให้คนนอกสมัครเข้ามาเขียน content ได้แต่อย่างใด (เนื่องจากกำลังอยู่ในระหว่างการทดลอง model นี้ในการศึกษา)

App: Leopard MenuHack

บ่นกันจัง ว่า Menu bar ใน Leopard มันกวนสายตา กวนใจ ไม่พอ ยังทำให้ต้องเรื่องมากขึ้นอีกเยอะกับการเลือก background สักรูป เพราะว่าไม่งั้นมันจะอ่าน menu bar ลำบากเอา

kiterminal ไปเจอโปรแกรมเจ๋งๆ ตัวนึงมา ชื่อ Leopard MenuHack หน้าที่ของมันคือให้เราปรับสีตรงที่จะไปอยู่ด้านหลัง menu bar ได้เลย (เหมือนกับเอาแถบสีไปแปะบน desktop background น่ะแหละ) แถมเป็น open source (ใช้ GPL) ด้วย

วิธีการใช้ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา แต่ว่ายังให้ความรู้สึก hacked พอควร (ก็สมชื่อ) ยังมีปัญหานิดหน่อย แต่ว่าก็ทำงานได้ดี ผมก็เลือกให้เป็นสีดำตลอดเลย ไม่ว่าจะใช้ background อะไรก็ตาม สรุปว่าลองใช้กันดูครับ

MacBook Pro จะมี Major upgrade เมื่อไหร่?

คำถามที่ถามกันมากมาย มานาน หลายเดือน อาจจะเป็นปีๆ แล้วมั้ง กับคนที่อยากจะซื้อ หรือว่าต้องการจะ upgrade เครื่อง Mac laptop ของตัวเองเสียที ก็คาดหวังกันมานาน ผิดหวังกันแล้วผิดหวังกันอีก

จริงๆ แล้วผมกับ วีร์ (ที่ทำ dualGeek podcast ด้วยกัน) ก็คุยกันบ่อย และคาดเดาเรื่อง time frame ต่างๆ นานา และ pattern ในการออก product มามากมาย ต่างๆ นานา แต่ทุกการคาดเดาของเราเกี่ยวกับ MacBook Pro นี่พลาดหมด

MacBook Pro เป็น laptop ระดับ flagship ของ Apple ที่มีหน้าตาแบบนี้มาตั้งแต่เป็น PowerBook G4 แล้ว แทบจะเหมือนกันเปี๊ยบ มีต่างกันเล็กๆ น้อยๆ และล่าสุดเพิ่งจะได้รับ minor change ในรุ่น BTO ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมเองก็ชอบโจ๊กเล่นเสมอๆ ว่า ถ้าคิดว่าคอมพิวเตอร์เป็นแฟนนะ เปลี่ยน PB เป็น MBP นี่เหมือนกับเปลี่ยนแฟนไปคบน้องสาวแฟน ที่รูปร่างหน้าตาเกือบจะเหมือนกันแทน ยิ่งเปลี่ยน MBP เป็น MBP รุ่นใหม่นี่ ยิ่งเหมือนกับเปลี่ยนแฟนเป็นฝาแฝดแฟนยังไงยังงั้น อาจจะเร่าร้อนกว่าหน่อยเวลาเอาไปนั่งตัก หรือว่าทำได้นานกว่าหน่อย (battery life) หรือว่าหน้าตาปิ๊งปั๊งขึ้น (ถ้าเลือกแบบจอ glossy) …. เฮ้ย เลิกเหอะ ชักเลยเถิด

พอดีวันนี้คุยกับ peter (ซี้เก่าสมัยเรียนที่ญี่ปุ่น) มีอะไรตลกๆ เลย capture มาให้อ่านกัน

ตลกอ่ะ ช่างสังเกตมาก 2001, 2003, 2006, … ถ้าเอาเฉพาะตัวหลัง (1, 3, 6) มันเป็น Triangular Numbers (1, 3, 6, 10, 15, 21, 28, 36, 45, 55, …) นี่หว่า!

โอ้เย่ งั้นแบบนี้ MBP major upgrade ครั้งต่อไปคงจะเป็น 2010 (ฮา …. ไม่ค่อยออก)

ล้อเล่นน่ะครับ ยังไงคิดว่า MWSF ครั้งหน้านี่น่าลุ้นเหมือนกันนะ

[update 1] แก้คำผิดเล็กน้อย

iChat Theater Setting

สำหรับคนที่เล่น Leopard แล้วอยากจะลองใช้ iChat Theater ให้มี side-by-side view แบบใน Demo/Keynote/Web/Screenshots ทั่วไป แต่ว่าเมื่อลองแล้วกลับไม่เป็นแบบนั้น ให้ทำแบบนี้ครับ

  1. เข้าไปที่ System Preferences แล้วไปยัง QuickTime streaming speed
  2. เปลี่ยน speed ให้มากหน่อย (ผมลอง 1.5 แล้วใช้ได้) อย่าใช้ Automatic
  3. ปรับ bandwidth limit ที่ Audio/Video ใน iChat Preferences ให้เป็น None

ตัวอย่างในรูปนี่ไม่ใช่รูปผมนะ แต่เป็นลูกศิษย์ (neokain) ที่สถาบันวิจัย ตอนกำลังทดสอบ iChat Theater กันครับ ส่วนรูปที่แชร์นี่ถ่ายจากนครธมที่เขมร …​ เหมือนกับตราสโมสรฟุตบอลอะไรซักอย่าง

แก้ Dock ใน Leopard

Dock เปลี่ยนไปเยอะมากมายใน Leopard และถึงผมจะเริ่มชินกับมันบ้างแล้ว แต่ว่าผมก็ยังไม่ค่อยจะชอบมันเท่าไหร่อยู่ดี ครั้นลองเปลี่ยนไปเป็น 2D ตามที่ เคย post ไว้ก่อนหน้านี้ ผมก็รำคาญขอบสีขาวของมันอยู่ดีน่ะแหละ เลยเปลี่ยนกลับไปเป็น 3D เหมือนเดิมอะไรๆ มันก็พอจะเริ่มรับได้ล่ะนะ ยกเว้นเจ้าทางม้าลาย ที่ผมว่ามันเกะกะจัง มัน visual distraction มากเลย ก็เลยหาทางเอาออกซะสรุปว่า ผมก็เลยหาทางเล่นกับ Dock ตัวนี้ซะเลย ทำตามนี้นะครับ

  1. เปิด Finder ไปที่ /System/Library/CoreServices 
  2. หา Dock.app แล้ว click ขวา เลือก Show Package Contents
  3. เข้าไปใน Contents/Resources
  4. จากนั้นก็หาไฟล์ชื่อดังนี้ scurve-[l,m,sm,xl].png ซึ่งเป็นไฟล์สำหรับฐานรอง Dock และไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วย separator ซึ่งเป็นไฟล์ตัวกั้นลายทางม้าลาย (มี 3 ไฟล์ ชื่อคล้ายๆ กันตามรูปแบบของตัวกั้นที่ใช้งาน สำหรับ 3D Dock แล้วก็ 2D Dock ด้านข้างและด้านล่าง)
  5. จากนั้นจะทำอะไรกับไฟล์เหล่านี้ก็ตามสบายครับผม อย่าลืม backup ไว้ก่อนล่ะ
  6. จากนั้นก็หาทาง restart Dock ซึ่งง่ายที่สุดก็เปิด Terminal.app แล้วก็พิมพ์ว่า killall Dock กด enter
  7. Boom!

ใครที่ถนัดใช้ command line อยู่แล้ว ก็เปิด Terminal.app แล้วก็พิมพ์

cd /System/Library/CoreServices/Dock.app/Contents/Resources

แล้วก็เชิญงัดแงะตามสบายได้เลยรูปด้านล่างนี้เกิดจากการที่ผมย้ายไฟล์ทางม้าลายที่ว่านี่ไปไว้ที่อื่น

[update 1]: เพิ่งจะงัดแงะต่อ กับการแก้ขอบขาวใน 2D Dock พบว่าถ้าย้ายไฟล์ bottom[1-5].png ไปไว้ที่อื่นแทน แล้วก็ทำเป็น 2D Dock อย่างที่เขียนใน post ที่ link ไว้ข้างบน ขอบขาวมันจะหายไป…

Happy Hacking ครับ