My Leica Story #1: The M8 (English version)

[Note] This is a long-overdue, paragraph-by-paragraph English translation of the Thai version that I posted on September 24th, 2013.


This series of articles is not “review” but rather the “story” of me with Leica, from M8 onward. Originally, it was intended to be 3-parts, M8, M9 and M240, then translate to English. However, since I became so busy with other things after that, the translation was put indefinitely on hold. Recently, since my acquisition of the M10, many readers asked me to write about it. So I thought it is a great time to get back to write about cameras and photography in general. I’d start with the long-overdue translation first. So, M10, you have to wait.

So, let’s begin with the camera that started it all: The M8


IMG_5045.jpg

My Leica M8 — taken from what used to be the best compact camera in the world

Again, this is not a review but rather the story. So if you expect professional review or technical test, you might be disappointed. You’d been warned ;-)

Continue reading

Nikon Coolpix A: My New “Anywhere” Buddy

ไม่ได้เขียนรีวิวอุปกรณ์ถ่ายรูปซะนาน ส่วนหนึ่งเพราะช่วงหลังๆ ไม่ได้ซื้ออะไรเลย …. ตั้งแต่ถอย Nikon Df (อ่านรีวิวที่นี่) ก็ไม่ได้ซื้ออะไรทั้งนั้น แล้วก็งานยุ่งซะจนไม่ได้ไปเที่ยวถ่ายรูปที่ไหนเลย แล้วก็ไม่ค่อยได้เข้าไปอ่านกระทู้ตามเว็บบอร์ดกล้องด้วย

จนกระทั่งช่วงก่อนหน้านี้ กล้องตัวที่ผมสนใจมากก็คือ Sigma dp2 Quattro เริ่มไปถึงมือบรรดาคนเล่นกล้อง คนถ่ายรูปในต่างประเทศ ผมเลยเริ่มกลับมาอ่านๆ กระทู้หรือบทความต่างๆ อีกครั้ง …. จนกระทั่งวันหนึ่งก็เข้าไปยังห้อง Nikon ในเว็บ ThaiDPhoto เจอกระทู้น่าสนใจคือ “[จับเข่าคุย] ชวนผู้ใช้ Coolpix A มาคุยกันหน่อย” ก็เลยเกิดความสงสัยนิดๆ …. เอ๊ะ กล้องมันก็ออกมานานแล้วนี่ ตั้งแต่มันออกมาก็เห็นเงียบๆ กัน ไม่ค่อยมีคนพูดถึง ทำไมอยู่ดีๆ มีคนตั้งกระทู้ ก็เลยลองเข้าไปอ่านดู … ​แล้วผมก็พบข้อมูลที่ทำให้ตาลุกทันที ก็เพราะว่ามันมีโปรโมชั่นที่ร้าน Pixpros House ในราคาถูกมากจนแทบไม่น่าเชื่อ (จาก 36,900 เหลือ 14,900 เท่านั้นเอง ป.ล. ไม่ได้ค่าโฆษณา) ….. ขยี้ตาดูราคาอยู่สองรอบ


DSC_6049.jpg

Nikon Coolpix A สีเงิน + Skin ลายหนังสีดำ ให้เข้าชุดกับ Nikon Df และ Leica M240 ที่มีอยู่แล้ว

จริงๆ ผมก็ค่อนข้างจะสนใจ Coolpix A อยู่แล้วตั้งแต่มันออกมา แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง และราคาที่ค่อนข้างจะสูง ทำให้ไม่ได้ซื้อมาเล่น แต่ในเมื่อมันมีโปรโมชั่นแบบนี้ และมีถึงแค่สิ้นเดือนนี้เท่านั้น ประกอบกับตอนนั้นผมเพิ่งจะขาย Fuji X100s ไปด้วย เลยไม่มีกล้อง APS-C ขนาดเล็กใช้ นอกจาก Sigma DP2 Merrill ซึ่งค่อนข้างเป็นกล้องเฉพาะทางมากๆ (อ่านรีวิวที่นี่) ผมก็เลยรีบไปสอยมา …. และรีบเขียนรีวิวนี้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจมันอยู่ (จะได้ทันก่อนหมดโปรโมชั่น หรือของหมด)

Continue reading

Nikon Df: Impression, Review, Feeling, and More!

[อัพเดท: 01/04/2014] เพิ่ม Section “One More Thing”
[อัพเดท: 01/15/2014] เพิ่มเรื่อง “เสียงชัตเตอร์”


กล้องที่ผมสนใจที่สุดในปี 2013 ที่ผ่านมา ไม่มีทางพ้น Nikon Df แน่นอน สนใจถึงขนาดที่ตอนที่มันยังไม่ออกมา ผมยังเขียนบทความที่เกี่ยวกับมันไปแล้วถึง 2 เรื่องด้วยกันคือ Reflection on “Nikon’s Pure Photography” และ ไม่ใช่รีวิว: Nikon Df

หลังจากรอแล้วรออีก … ตอนนี้มันก็อยู่ในมือผมเป็นที่เรียบร้อย จริงๆ แล้วผมแทบรอเขียนรีวิวมันไม่ไหว แต่ต้องรอจนกระทั่งใช้งานจริงเสียก่อนเพื่อให้รู้ว่ากับสถานการณ์จริงต่างๆ แล้วมันเป็นยังไงบ้าง ไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพของภาพ หรือการควบคุมภายนอกต่างๆ และตอนนี้ผมได้ทำงานกับมันจริงจังมาสักพักหนึ่งแล้ว ดังนั้นก็ถึงเวลาแล้วที่จะ “รีวิว Nikon Df” ล่ะครับ

ก่อนที่จะเข้าเรื่อง ผมขอบอกสั้นๆ เลยครับว่า Nikon Df เป็นกล้องที่

“Love it, or Hate it — ไม่รัก ก็เกลียด”

เลยทีเดียวล่ะครับ ….​ เพราะมันเป็นกล้องไม่กี่ตัวที่ “ซื้อด้วยหัวใจ ไม่ใช่เหตุผล”





Nikon Df — ถ่ายจาก Sony A7 + Voigtlander 50mm f/1.1

แต่กล้องที่ “ซื้อด้วยหัวใจ ใช้ด้วยความรู้สึก” นี่ถ้าเอามาใช้งานจริงๆ แล้วจะรู้สึกยังไง ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง ดีมั้ย แย่มั้ย ฯลฯ ….. รีวิวนี้มีคำตอบจาก “มุมมองและประสบการณ์ส่วนบุคคล” ที่เป็นแค่คนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ชอบถ่ายรูป มีความสุขกับการเล่นอุปกรณ์ไปเรื่อยๆ ใช้เองจริง ถ่ายภาพเรื่อยๆ เล่าเรื่อง เวิ่นเว้อ (แต่ไม่เพ้อเจ้อนะ) :D

Continue reading

Reflection on “Nikon’s Pure Photography”

[อัพเดท: 11/03/2013] เพิ่มตอนที่ 6
[อัพเดท: 11/04/2013] แก้ไขข้อความ แก้ไขข่าวลือเล็กน้อย


ปกติผมไม่เขียนถึงกล้องหรือเลนส์ที่เป็นข่าวลือ หรือยังไม่ประกาศนะ (แน่นอน นี่ไม่ใช่เว็บข่าวลือ) แต่ตัวนี้ผมต้องเขียนถึง ไม่เขียนไม่ได้ล่ะ อึดอัด!

ผมเชื่อว่าลึกๆ แล้วในใจคนหลายคน ยังมีความโหยหาโลกสมัยก่อน ที่ทุกอย่างเรียบง่าย ละเอียด โลกที่เวลายังเดินช้า ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีความรีบเร่ง เร่งร้อน เร่งด่วน โลกที่ยังทำให้เรารู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน โลกที่ทำให้เรารู้สึกว่า “ชีวิตมันเป็นของเรา” มากกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มันตรงกันข้ามกันในทุกวันนี้ … ทำไมนะ ถึงที่ทำงานเราจะมีการออกแบบสไตล์โมเดิร์นที่เต็มไปด้วยกระจกและความเรียบหรู แต่ที่บ้านเรายังชอบเฟอร์นิเจอร์ที่แลดูวินเทจ .. ก็คงจะเป็นเหตุผลเดียวกัน

มันก็คงจะเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่การออกแบบอุปกรณ์ที่มีประวัติยาวนานเช่นกล้องถ่ายรูป จะเริ่มย้อนยุคกลับไปใช้การออกแบบสมัยก่อน หรือที่เราเรียกว่า Retro Style กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Fujifilm X100/X100s ที่หลายต่อหลายคนซื้อ แล้วก็รักมัน ด้วยความ “คลาสสิค” ของรูปร่างหน้าตา มากกว่าฟีเจอร์หรือความสามารถ จนกลายเป็นรูปแบบการออกแบบกล้องทุกตัวของ Fujifilm ไปซะแล้ว หรือว่าแบบ Leica M ที่ยังคงรูปร่างหน้าตาและการใช้งานตั้งแต่ยุคคลาสสิคไว้แทบไม่เปลี่ยนเลย ถึงแม้ภายในของ Leica M 240 จะเปลี่ยนไปทั้งหมด แต่ภายนอกนั้นก็ยังคงเรียบง่ายเหมือนเดิม [บทความ: My Leica Story Pt3: The M 240]

และแล้วก็มาถึงคิวของ Nikon บ้าง


“Classic Nikon F3 Film SLR”


Image Source: nikonrumors.com
http://nikonrumors.com/wp-content/uploads/2013/10/Nikon-F3-film-camera.jpg


Continue reading

The Three Monkeys

สุภาษิตโบราณว่าไว้เป็นปรัชญาชีวิต

“See no evil, Hear no evil, Speak no evil”

แปลตรงๆ ตัวว่า “ไม่เห็นสิ่งชั่วร้าย ไม่ได้ยินสิ่งชั่วร้าย ไม่พูดสิ่งชั่วร้าย”

ต่างวัฒนธรรมก็ตีความสัญลักษณ์นี้ต่างกัน โลกตะวันออกอย่างเราๆ ตีความเป็นคติเตือนใจให้กับชีวิตว่า “อย่าอยู่กับสิ่งชั่วร้าย” ไม่ว่าจะเป็นการพูด การได้ยิน หรือการมองเห็น ฟังดูแล้วเหมือนกับให้ “ปล่อยวาง” แต่อีกวัฒนธรรมหนึ่งอาจใช้สัญลักษณ์นี้ในเชิงตรงข้าม คือใช้แสดงถึงคนที่ปล่อยปละละเลยจากการมองเห็นความไม่ดีไม่งามไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว ฟังดูแล้วเหมือนกับให้ “ต้องเห็น/ต้องสนใจ”

แล้วใครถูกใครผิดเล่า กับสองมุมมองนี้? มันดูจะขัดกันมากมายใช่ไหม


DSC_5678.jpg

“三猿” (แปลว่า “ลิงสามตัว”) at the Tosho-gu shrine in Nikko, Japan

Continue reading

My Leica Story [3]: The M Typ 240 (M240) + Review

[อัพเดท: 10/17/2013] เพิ่มเรื่องไฟล์ RAW และภาพเปรียบเทียบ
[อัพเดท: 10/18/2013] เพิ่มเรื่อง JPEG Processing Capability


ความเดิม:

กล่องที่ยังไม่ได้แกะของ Leica M Typ 240 (ซึ่งต่อไปนี้ผมจะเรียกย่อๆ ว่า M240 นะ) วางอยู่ตรงหน้าผมแล้ว บอกตามตรงเลยว่าผมมี First Impression ที่ดีมากกับเจ้า M240 ตั้งแต่ผมเห็นกล่องล่ะครับ กล่องของ M240 มีรูปทรงเปลี่ยนไปจาก M8 และ M9 แบบเห็นได้ชัด ดูเล็กลง แต่ “Lean” ขึ้นอย่างรู้สึกได้ และเมื่อเปิดกล่องออกมายิ่งรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในเชิงการออกแบบในทางที่ดีขึ้น การออกแบบการจัดเก็บต่างๆ ภายในกล่องถูกออกแบบในรูปแบบของลิ้นชัก แยกชัดเจนระหว่างตัวกล้อง อุปกรณ์ และสายไฟต่างๆ (แล้วในส่วนเก็บสายไฟ นี่เปิดมาเจอสายชาร์จในรถด้วยนี่รู้สึกฟินมาก เข้าใจผู้ใช้งานจริงๆ)


DSC_1178.jpg

The M

ผมค่อยๆ แกะดึงกล่องที่บรรจุตัวกล้อง ที่วางอยู่ที่ชั้นบนสุดภายในกล่องออกมา แล้วค่อยๆ เอาตัวกล้องออกจากพลาสติกที่ห่อมันเอาไว้ เอาเลนส์ 50mm f/1.4 Summilux ASPH ที่เอาไปด้วย เมาท์กับตัวกล้อง … ตั้งแต่ความรู้สึกแรกที่เอาเจ้า M240 ออกจากกล่อง มาถือในมือหลังจากเมาท์เลนส์ … ทุกความรู้สึกผมมันบอกล่ะครับว่า มันคือ ….

“The Best Digital M”

แต่มันจะเป็นยังงั้นจริงหรือเปล่า … เรื่องนี้ “ยาว” ครับ

ก่อนจะอ่านต่อ ต้องบอกไว้ก่อนว่า .. นี่ไม่ใช่ “รีวิว” ของ M240 นะครับ แต่เป็นการเขียนถึงความรู้สึกต่างๆ จากการใช้งานจริงของผู้ใช้คนหนึ่ง ถึงจะออกแนวรีวิวมากกว่าทั้งสองตอนที่ผ่านมาก็เถอะ … ถ้าไม่ชอบบทความอารมณ์ “เล่าเรื่องราว” ก็ข้ามไปนะครับ อย่ากดเข้าไปอ่านต่อ :-)

Continue reading

The Other Path, The Other Way

[อัพเดท: 10/08/2013] เพิ่มเนื้อหาเล็กน้อย และรูป 1 รูป


จำเป็นด้วยหรือ ว่าจะต้องดูเส้นทางที่คนอื่นกำลังเดินอยู่ตลอดเวลา จำเป็นด้วยหรือ ที่จะต้องเปรียบเทียบทุกสิ่งทุกอย่างกับคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา … บางครั้ง เส้นทางที่ดูเหมือนจะสวนกับเส้นทางที่คนอื่นทั้งหมดกำลังเดิน มันอาจจะเป็นเส้นทางที่ดีกว่าก็ได้นะ

ถ้าเราเดินทางสวนกับคนอื่น หรือคนละทางกับคนอื่นซะบ้าง เราอาจจะไม่ต้องเจอสิ่งที่คนอื่นเขากำลังเจอ กำลังบ่น กำลังจะเจอ กำลังเสียเวลาเพื่อเผชิญและไม่รู้จะแก้มันยังไง ก็ได้นะ

หลายคนไม่ได้อยากแข่งขันอะไรกับใครหรอก แต่พอเดินทางเส้นเดียวกับคนอื่นมากๆ เข้า ถึงเราจะไม่อยากแข่งขันอะไรกับใคร การแข่งขันและเปรียบเทียบต่างๆ มันจะตามเรามาเองโดยที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกร้องหรือต้องการมัน


L1000777.jpg

Contrast in a Way (ป.ล. ภาพนี้มีคำใบ้สำคัญอยู่ในภาพ..)
แถวสาทร ตอนเลิกงาน

Continue reading

My Leica Story [2]: The M9

ความเดิม: My Leica Story (Part 1): The M8

หลังจากที่ได้ M8 มาไม่นานเท่าไหร่นัก Leica ก็ทำสิ่งที่พวกเขาบอกมาตลอดว่า “ทำไม่ได้” หรือแม้แต่ “เป็นไปไม่ได้” สำเร็จ นั่นก็คือ Full Frame Digital M ซึ่งแน่นอนว่าจะกลายมาเป็นรุ่นต่อจาก M8 และใช้ชื่อว่า M9​ โดย Leica เลือกวันเลขสวยมาก คือ 09/09/09 ในการประกาศตัว

แต่ด้วยความที่ตอนนั้นเพิ่งจะแทบหมดตัวกับการได้ M8 มาไม่นานนัก แถมยังรู้สึกว่ามันโคตรห่วย ถ่ายยังไงก็ไม่สวย (อ่านรายละเอียดเรื่องนี้ได้จากบทความตอนที่แล้วตาม Link ด้านบน) ทำให้ผมค่อนข้างจะไม่สนใจมันเท่าไหร่ แต่พอเห็นรูปจากที่คนอื่นที่เค้าลองใช้คนแรก ถ่ายกัน อืมมม สวยนะ เอ .. เราเอามาใช้จะถ่ายสวยกว่า M8 มั้ยนะ (ตอนนั้นยังหวังพึ่งอุปกรณ์อยู่) แต่ก็คงเหมือน M8 มั้ง ที่ดูคนอื่นถ่ายสวยหมด แต่ตัวเองถ่ายไม่ได้เรื่อง ใช้ Nikon ต่อไปดีกว่า .. ทำให้กว่าผมจะได้เล่นมันจริงๆ น่ะอีกนานเลย … หลังจากที่ “ผมเปลี่ยนไป” แล้วน่ะแหละ


Leica M9 Body

Leica M9 … รูปถ่ายโดยเจ้าของเก่าของกล้องตัวนี้

เช่นเดียวกับตอนแรกของซีรี่ส์นี้นะครับ … นี่ไม่ใช่ “รีวิว” ถ้าไม่ชอบบทความอารมณ์ “เล่าเรื่องราว” ก็ข้ามไปนะครับ อย่ากดเข้าไปอ่านต่อ :-)

Continue reading

My Leica Story [1]: The M8

[อัพเดท: 09/24/2013] เพิ่มเรื่องเสียงชัตเตอร์ เพิ่มรูป เปลี่ยนตำแหน่งรูป แก้คำผิด
[อัพเดท: 09/25/2013] เปลี่ยนรูป
[อัพเดท: 09/30/2013] เพิ่มลิงค์ไปตอนต่อไป ท้ายเรื่อง


บทความชุดนี้ “ไม่ใช่รีวิว” แต่เป็น “เรื่องราว” แบบย่อๆ ของตัวผมเองกับ Leica Digital ตั้งแต่ M8, M9 และต่อด้วย Impression สั้นๆ ที่อาจจะไม่สั้นเท่าไหร่แบบก้ำกึ่งรีวิวของ “Leica M” (Typ 240) ที่ผมตั้งใจว่าจะไม่เขียนอะไรถึงมันเลย จนกระทั่งใช้เจ้า M (240) ไปอีกระยะหนึ่ง ให้แน่ใจว่าพอจะเขียนได้ซะก่อน แล้วค่อยเขียน … แต่ต้องบอกว่า “ไม่เขียนไม่ได้แล้ว”

แต่ก่อนที่จะเริ่มเขียนถึง M (240) นี่ผมอยากจะเล่าเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ของผมกับ Leica M ซะหน่อย ว่ามันเป็นมายังไง หลวมตัวมาเล่นได้ยังไง ฯลฯ .. อีกอย่าง ผมใช้ Leica M8 มาหลายปี ทุกวันนี้เป็นกล้องที่เก่าที่สุดในตู้เก็บกล้อง และเป็นกล้องที่ผมรักที่สุดในตู้ แต่ผมไม่เคยเขียนอะไรถึงมันเลย อย่างมากก็แค่พูดถึงนิดหน่อยในบทความต่างๆ เท่านั้น เพราะอะไรยังงั้นเหรอ … ในบทความนี้มีคำเฉลยครับ


IMG_5045.jpg

Leica M8 — ถ่ายจากกล้องคอมแพคที่ดีที่สุด ;-)

อีกครั้งหนึ่งนะครับ … นี่ไม่ใช่ “รีวิว” ถ้าไม่ชอบบทความอารมณ์ “เล่าเรื่องราว” ก็ข้ามไปนะครับ อย่ากดเข้าไปอ่านต่อ :-)

Continue reading

Dynamic Range ของ D800 RAW

ปกติแล้วผมไม่ค่อยจะเขียนถึงกล้อง DSLR มากนัก ทั้งๆ ที่ใช้งานมันเป็นหลัก มากกว่ากล้องตัวอื่นๆ ที่มีอยู่ทั้งหมด และบอกตามตรงว่าเวลาไปเที่ยวไหนที่คิดว่าจะถ่ายภาพจริงจังมากกว่าเที่ยว ก็ยังต้องใช้เป็นกล้องหลักอยู่เสมอก็ตาม

แต่วันนี้ต้องเขียนถึงเรื่องหนึ่งเป็นกรณีพิเศษสักหน่อย ก็คือเรื่อง Dynamic Range ของไฟล์ RAW จากกล้อง D800 ครับ

เป็นที่รู้กันดีว่าไฟล์ RAW ของ D800 นั้นเก็บข้อมูลไว้มหาศาล (ถ่าย 14-bit แบบบีบอัดข้อมูลจะใช้พื้นที่กว่า 30MB/ไฟล์) และที่ base-ISO สามารถเก็บ Dynamic Range ของแสงที่ต่างกันไว้ได้ถึงประมาณ 14-stop ซึ่งถือว่ามากมายเอาเรื่อง …. แต่ในการใช้งานจริง มันหมายถึงอะไรล่ะ?

ลองมาดูภาพที่แปลงจาก RAW แบบดิบๆ ไม่ได้ทำอะไรจากกล้องก่อนนะครับ

ภาพนี้ผมถ่ายตอนที่ไปเที่ยวกระบี่ แล้วเห็นฝรั่งนักท่องเที่ยวคู่หนึ่งกำลังบอกรักกันแบบหวานมาก ที่ร้านเครื่องดื่มแห่งหนึ่งบนเกาะไร่เลย์ … “เฮ้ย สวยมาก” ผมคิด และหยิบกล้องขึ้นถ่ายไว้ทันที โดยที่กล้องตั้งไว้เป็น Aperture Priority ตั้ง Matrix Metering ซึ่งจะเอาลักษณะของภาพที่มันเก็บได้ ไปเทียบกับลักษณะภาพในฐานข้อมูล และจัดการตั้งค่าให้เหมาะสมกับภาพที่กำลังถ่าย (และได้รับการอัพเกรดให้มีจำนวนจุดวัดแสงทั้งหมด 91,000-pixel เทียบกับ D700 ซึ่งมี 1,005 จุด) และไม่มีการชดเชยแสงแต่อย่างใด


"Dear, I love you" [RAW]

“Dear, I love you” [RAW]

ตามคาดครับ “มืด” เพราะว่าแสงข้างนอกนั้นจ้ามาก สว่างมาก เรียกว่าถ้าจะชดเชยแสงก็ต้องไม่ต่ำกว่า 1-stop (+1EV) แน่ๆ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นข้างนอกก็จะสว่างไปอีก … และแล้ว วินาทีนั้นก็ผ่านไป ….

ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะคิดว่า “รูปเสีย” กับปลอบใจตัวเองว่า “เออ เอาไปทำ Silhouette ก็ได้ฟะ น่าจะสวยไปอีกแบบ” แหงๆ แต่เพราะว่ารู้ว่า D800 RAW มันน่าจะ “เอาอยู่” กับสถานการณ์แบบนี้

Continue reading