Between Red and Yellow


Between Yellow and Red

Nikon D3s, 24-70/2.8N, 56mm, f/8, 1/200s, ISO 320. (click for bigger size)

เป็นภาพจากทริปไปตลาดน้ำอัมพวา ระหว่างที่ผมกำลังเดินเล่นอย่างสบายใจ และถ่ายรูปบ้างตามสนุกนั้น สายตาผมก็สังเกตเห็นภาพนี้

สิ่งที่ผมเห็น ทำให้ผมสลดใจมากทีเดียว ซึ่งผมเข้าใจนะ ว่าภาพนี้เค้าไม่ได้จัดฉากหรือว่าจัดอะไรให้ผมคิดแบบนี้หรอก แต่ว่าผมเห็น “หมวก” สองใบคนละสีกัน ใบหนึ่งสีเหลือง ใบหนึ่งสีแดง ขนาบ “ธงชาติไทย” ที่ยับ บิดเบี้ยว อยู่ตรงกลาง

“หมวก” สิ่งที่เราใช้แทนบทบาทหน้าที่ (เช่น วันนี้ผมใส่หมวกผู้อำนวยการศูนย์คอมพิวเตอร์ หรือว่าวันนี้ผมจะต้องถอดหมวกความเป็นอาจารย์จากศิลปากร เป็นต้น) ที่เราอาจมีเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ทำงานอะไรบางอย่างในบางบทบาท และเมื่อเราเอาหมวกครอบหัวเอาไว้ บางทีเราจะถูกความคิด ทัศนคติ ที่มากับบทบาทนั้น ครอบหัว ครอบความคิด ครอบงำ ฯลฯ จนบางทีเราอาจจะถอดมันไม่ออกอีกแล้วก็เป็นได้

“ธงชาติ” ก็เป็นสัญลักษณ์ของชาติ ชาติใครก็ชาติมัน ความหมายดีทั้งนั้นกับแต่ละองค์ประกอบดีทั้งนั้นที่เราใส่ลงไปในธงชาติ

อยากให้สังเกตนิดหน่อย … ลองดูสิครับ ว่า “หมวก” มันสีอะไร? (จริงๆ ก็เขียนตั้งแต่ต้น) และภาพนี้ทำให้ท่านคิดอะไร เห็นอะไร สะท้อนใจอะไร

ผมกำลังคิดว่า เราใส่หมวกสีอะไรกันทุกวันนี้ และทำหน้าที่อะไรกันอยู่กันแน่ ……. และมีใครสนใจสิ่งที่อยู่ตรงกลางกันบ้างไหม? หรือว่าแค่ทิ้งมันไว้อย่างนั้น และใส่หมวกกันต่อไป

บางทีถึงเวลาถอดหมวกกันให้หมด และคิดในฐานะที่เป็นตัวตนของเราเองจริงๆ นั่นคือ “คนไทย” หรือยัง?

ฝัน ….

คิดว่าเคยเอาลงไปแล้ว แต่ขี้เกียจค้น คิดว่าเข้ากับบรรยากาศการเมืองตอนนี้ดี เลยขอโพสท์ใหม่ เป็นกลอนไม่กี่บทที่ยังจำขึ้นใจ (จากทั้งหมดเป็นร้อยๆ พันๆ บทที่เคยแต่งไว้)

แต่ละคนก็ล้วนมีความฝัน
แตกต่างกันฝันไปได้ทุกอย่าง
แต่ละคนฝันหาอะไรบ้าง
ก็อยากสร้างฝันนั้นให้มันจริง
ทุกทุกคนฝันหาทุกทุกอย่าง
ไม่มีทางจะเป็นจริงไปทุกสิ่ง
ฝันจะมีดาวนับร้อยให้คอยอิง
ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ไม่มีทาง
ฝันหารักหาคนมาเข้าใจ
ยิ่งฝันไปยิ่งพาใจให้อ้างว้าง
ฝันนิมิตเป็นลิขิตบอกโชคลาง
จะดีบ้างเลวบ้างคละกันไป
ใครจะฝันหาอะไรช่างใครเขา
ส่วนตัวเราฝันหาเธอยามหลับไหล
ทุกคืนวันฝันหาเธอเสมอไป
เธอ … ประชาธิปไตย … ที่ไกลจริง

กลอนบทนี้แต่งมานานมากแล้ว ตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย แต่ว่าไม่ได้เอาไปลงไว้ที่ไหนซักที เพิ่งนึกขึ้นมาได้ เลยเอาลงไว้ที่นี่ก็แล้วกัน

ผมขอไม่พูดถึงคำว่า ประชาธิปไตย ว่าจริงๆ มันหมายถึงอะไรกันแน่นะครับ เพียงแต่สิ่งที่หลายต่อหลายคนอ้างกันว่าเป็นประชาธิปไตยในบ้านเรา ณ ตอนนี้ มันห่างไกลจากคำว่าประชาธิปไตยมากขึ้นทุกวันๆ

ฝัน

แต่ละคนก็ล้วนมีความฝัน
แตกต่างกันฝันไปได้ทุกอย่าง
แต่ละคนฝันหาอะไรบ้าง
ก็อยากสร้างฝันนั้นให้มันจริง
ทุกทุกคนฝันหาทุกทุกอย่าง
ไม่มีทางจะเป็นจริงไปทุกสิ่ง
ฝันจะมีดาวเป็นร้อยคอยแอบอิง
ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ไม่มีทาง
ฝันหารักหาคนมาเข้าใจ
ยิ่งฝันไปในใจยิ่งอ้างว้าง
ฝันนิมิตเป็นลิขิตบอกโชคลาง
จะดีบ้างเลวบ้างคละกันไป
ใครจะฝันหาอะไรช่างใครเขา
แต่ตัวเราฝันหาเธอยามหลับไหล
ทุกคืนวันฝันหาเธอเสมอไป
เธอ… ประชาธิปไตย .. ที่ไกลจริง

กลอนบทนี้แต่งมานานมากแล้ว ตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย แต่ว่าไม่ได้เอาไปลงไว้ที่ไหนซักที เพิ่งนึกขึ้นมาได้ เลยเอาลงไว้ที่นี่ก็แล้วกัน